2/18/2554

ความร้อนกับคอมพ์พัง

เวลาที่พูดถึงความร้อนแค่อ่านก็รู้สึกร้อนวูบวาบ จำได้ว่าสมัยลุงตาบูยังเด็กๆ เมืองไทยยังมี 3 ฤดู คือ ฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน แต่เดี๋ยวนี้เมืองไทยมีแต่ร้อน กับโคตรร้อน หลานๆ ลองนึกดูว่านี่ยังไม่เข้าเดือนเมษายนที่จะต้องเป็นเดือนที่ร้อนที่สุด อากาศยังร้อนตับแตกขนาดนี้
บ่นเรื่องอากาศร้อนซึ่งเป็นที่มาของคอลัมน์ไอทีต้องระวังฉบับนี้ที่ลุงจะขอพูดถึงเรื่อง ความร้อนกับคอมพ์พัง เป็นที่ทราบกันดีมานานแล้วว่า ความร้อนส่งผลต่ออายุการใช้งานของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า (รวมถึงสุขภาพกายและสุขภาพใจของลุงด้วย) แต่เพราะคอมพิวเตอร์ไม่ใช่คนก็เลยบ่นให้เราฟังว่าร้อนไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าหลานๆ จะไม่สามารถทราบได้ว่าตอนนี้น่ะคอมพ์มันร้อนเกินไปแล้ว
อาการที่บอกให้รู้ว่าตอนนี้คอมพ์นั้นร้อนเกินไปแล้ว ได้แก่การที่อยู่ๆ เครื่องก็แฮงก์แบบนิ่งสนิททำอะไรก็ไม่ขยับ บางครั้งก็อาจได้ยินเสียงพัดลมดังผิดปกติ คอมพิวเตอร์ส่วนมากจะมีพัดลมสองตัว - ตัวหนึ่งสำหรับระบายความร้อนให้เพาเวอร์ซัพพลายและอีกตัวหนึ่งสำหรับระบายความร้อนให้กับโพรเซสเซอร์ พัดลมเหล่านี้จะเป็นส่วนประกอบแรกๆ ของคอมพิวเตอร์ที่จะทำงานผิดพลาดเมื่อเครื่องร้อน ยิ่งถ้าพัดลมตัวใดตัวหนึ่งเสียก็อาจทำให้เกิดอาการจอฟ้า (มหาภัย) อย่างที่คอมพิวเตอร์.ทูเดย์เคยนำเสนอไปแล้ว
คอมพิวเตอร์นั้นไวต่ออุณหภูมิห้องมากกว่าหลานๆ เสียอีก หากอุณหภูมิภายในอยู่ที่ 85 องศา (ฟาเรนไฮต์) อุณหภูมิภายในเคสฮาร์ดไดรฟ์ของคอมพิวเตอร์ก็น่าจะอยู่ที่ราวๆ 110 องศา ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เก็บเครื่องไว้ในอุณหภูมิห้องที่สูงที่สุดประมาณ 75 ถึง 85 องศาเพื่อหลีกเลี่ยงการทำงานล้มเหลวที่จะเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ (และเป็นไปได้ที่จะเกิดความเสียหายอย่างถาวร)
หากคอมพิวเตอร์ของหลานๆ ร้อนเกินไป และคอมพิวเตอร์ก็เพิ่งซื้อมาได้ไม่นานนัก (แต่ถ้าซื้อมานานก็คงเป็นธรรมดาของโลกที่ต้องเสื่อมไปตามกาลเวลา) ลุงตาบูก็มีเคล็ดลับเง่ายๆ ในการช่วยแก้ปัญหา ดังนี้คือ จัดวางตำแหน่งของคอมพ์ตัวเก่งในที่ระบายอากาศที่ดีขึ้น ซึ่งก็ไม่จำเป็นว่าต้องเปิดแอร์ให้เย็นเวอร์แล้วทนนั่งใส่เสื้อหนาว แต่ให้เน้นวางในจุดที่มีการระบายอากาศที่ดี
จำกันง่ายๆ เลยก็คือควรจัดวางคอมพิวเตอร์ให้ห่างจากกำแพงสัก 2-3 นิ้ว อย่าวางคอมพิวเตอร์ไว้กับพื้นโดยตรง แต่ก็ไม่ควรวางลงไปบนพื้นหรือบนพรมโดยตรงแนะนำให้ ซื้อแท่นวางคอมพิวเตอร์ที่ยกเครื่องขึ้นเหนือพื้นสัก 2-3นิ้ว เพื่อลดการสะสมของฝุ่น ตรวจดูให้แน่ใจว่าแท่นวางนั้นไม่ได้ขวางพัดลมระบายอากาศ
ในส่วนภายในเครื่องหากเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะก็ควรจัดสายที่ระโยงระยางภายในให้เรียบร้อย เพื่อให้การระบายอากาศภายในดีขึ้น หลังจากที่จัดการกับเรื่องทางกายภาพไปแล้ว หลานๆ ก็ยังสามารถอัพเดตไบออส ว่ากันว่าการใช้ไบออสที่อัพเดตขึ้นจะช่วยให้การทำงานของซีพียูทำได้ดีขึ้นอีกด้วย แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ควรให้คนที่เชี่ยวๆ เขาทำให้เราจะดีกว่า ง่ายๆ เพียงเท่านี้หลานๆ ก็จะสามารถยืดอายุการใช้งานให้กับคอมพิวเตอร์ให้อยู่กนชั่วลูกชั่วหลานกันเลยก็ว่าได้

http://www.arip.co.th/articles.php?id=407331

โซเชียลเน็ตเวิร์กในบริการส่ง รัก

    

จากจุดเริ่มของนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 11 คนในนาม ฟีนิกซ์ 29 (www.phoenix-29.com) ที่คิดวิธีเรียกความสนใจเพื่อขายดอกไม้ หารายได้วันวาเลนไทน์ ในปี  2552 ด้วยการแสดงและรับอาสาส่งดอกไม้ บอกความรักและปรารถนาดีกับใครสักคน ที่ผู้ให้ยังไม่สะดวกไปเอง ด้วยราคา 29 บาท จนวันนี้ครบ 2 ปีของกิจการ งานของพวกเขายังขยายตัวไม่สิ้นสุด มีภารกิจส่งความรักอยู่แทบทุกวัน
   
“ยูทูบครับ ... คลิปกิจกรรมที่เราทำ ถ่ายไว้แล้วโพสต์ขึ้นเว็บ (www.youtube.com) มีคนเข้าดูจนเคยติดอันดับมากที่สุดของคลิปคนไทย เราถ่ายคลิปวิดีโอ ให้กับคนจ้างแล้วเขาโพสต์กันเอง คนมาดูก็ส่งต่อ ๆ กัน คนทั่วไปเห็นคลิปก็ติดต่อมา และการบอกกันปากต่อปาก ได้เบอร์โทรศัพท์เราจากบนเว็บ หรือสื่อสารกันที่หน้าเฟซบุ๊กของผมทิดแฮ่มฟีนิกซ์ (Tidham Phoenix)” ทิดแฮ่ม ศรายุทธ เพิ่มพูน นักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ ปี 4 ผู้ทำหน้าที่พิธีกรบอกรัก บอกความก้าวหน้าของกิจการส่งความรักที่ทำอยู่ทุกวันตลอดทั้งปี
   
สำหรับวาเลนไทน์ปีนี้ วันนี้ ทิดแฮ่ม เล่าว่า รับงานไว้แล้ว 10 ราย ซึ่งไม่ถือว่าสูงสุดเพราะเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ปีกลายเขาต้องส่งความรัก 20 ครั้ง แต่ที่จัดว่าพอดี ๆ คือวันละ 4 ครั้ง เกือบทั้งหมดเป็นการส่งความรักที่กรุงเทพฯ จังหวัดอื่นก็ไปมาแล้วทั่วประเทศ บริการที่ลูกค้าร้องขอมีทั้งบอกรัก ขอคืนดี อวยพรวันเกิด เน้นการสร้างเซอร์ไพร้ส์หรือความแปลกใจให้กับผู้รับ และเมื่องานเยอะ จึงแบ่งคนซึ่งเดี๋ยวนี้มี 13 คน เป็น 2 ทีม กับมีเครือข่ายรุ่นน้องที่เป็นสมาชิกกระจายตามสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ร่วมเป็นเครือข่ายช่วยงานอีกจำนวนมาก
   
ทิดแฮ่มบอกว่า ตอนนี้ไม่ได้ทำเพื่อขายดอกไม้ แต่เป็นลักษณะธุรกิจบริการ ที่ทำด้วยความสุขจากการที่ได้เห็นผู้รับและผู้มอบต่างมีความสุข ไม่ได้มุ่งแสวงกำไร ค่าใช้จ่ายจะขึ้นกับค่าเดินทางไกล และค่าตอบแทนของเพื่อนร่วมกลุ่ม ซึ่งแต่ละครั้งจะมีสมาชิกร่วมประมาณ 10 คน ทิดแฮ่มเป็นพิธีกร บอกรัก มีเพื่อนร่วมเต้น มีคนเล่นกลอง กีตาร์ ประกอบ จึงไม่มีราคาตายตัว บนเว็บจึงไม่ได้แจ้งราคา ไม่มีเงื่อนไขว่าต้องจ่ายเงินก่อนหรือหลัง ให้ไปแสดงก่อนแล้วจ่ายก็ได้ ไม่เคยถูกเบี้ยว ลูกค้าบางรายตังค์น้อย ขอให้เราไปงานอื่นในจุดใกล้เคียงกันเพื่อประหยัดค่าเดินทางก็ยังมี
   
ไม่เคยถูกกลั่นแกล้งตลอดการรับงานกว่าพันครั้ง การไปส่งความรักแต่ละครั้งจะได้รับความร่วมมือจากเพื่อนร่วมงานในสถานที่นั้น ๆ ซึ่งยินดีชี้แนะและทำให้งานราบรื่น
   
การให้บริการส่งความรักที่มีอยู่มากราย เป็นที่ประทับใจทั้งสิ้น ที่ตื่นเต้นคือได้สร้างเซอร์ไพร้ส์ให้คนดังอย่าง เก๋-ชลลดา เมฆราตรี นักแสดง กับ ตูน บอดี้สแลม นักร้องคนดัง ส่วนงานที่เรียกความปลาบปลื้มกับทุกคนที่ได้เห็น เป็นรายที่สามีขอให้ส่งจดหมายง้อภรรยา ซึ่งทำเอาผู้รับถึงกับน้ำตาไหล และช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ต่อมาก็ได้รับความไว้วางใจจากรายนี้ให้ไปอวยพรวันเกิดอีกครั้ง เคยได้รับความไว้วางใจให้เอาสร้อยทองคำไปมอบให้คนรักก็มีมาแล้ว
   
ใช่จะมีเฉพาะการส่งความรักระหว่างหญิง ชาย แต่แม่ส่งให้ลูกถึงที่ทำงานก็เคยทำ ถ้าเป็นรายที่ลูกส่งให้ พ่อกับแม่ มักจะเกิดกรณีที่ทีมงานได้ร้องไห้ตื้นตันไปกับเขาด้วย
   
สำหรับการสื่อสารกับคนที่ต้องการให้ไปส่งความรัก ทิดแฮ่มบอกว่า ส่วนใหญ่ติดต่อกันทางโทรศัพท์ หรืออีเมล แต่ถ้าเป็นรายละเอียดของงาน จะคุยผ่านเฟซบุ๊ก ในช่องสนทนาส่วนตัวเพื่อป้องกันบุคคลอื่น โดยเฉพาะผู้ที่จะไปทำเซอร์ไพร้ส์ให้มารับรู้
   
ทิดแฮ่มบอก จุดเริ่มของกิจกรรมที่ทำเป็นเพียงการหารายได้ประสานักศึกษา แต่ที่รู้จักอย่างกว้างขวางก็เพราะเผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านยูทูบที่คนไทยทั้งในประเทศและอยู่ต่างประเทศได้เห็น มีสื่อมวลชนทั้งนิตยสาร รายการทีวี เผยแพร่ต่อ ก็เหมือนประสบความสำเร็จอย่างหนึ่ง เพราะเรามาจากคนธรรมดา
   
ทิดแฮ่มบอกว่ายูทูบเป็นช่องทางเผยแพร่ที่ทุกคนนำมาใช้ประโยชน์ได้
   
ตอนนี้เขาและทีมฟีนิกซ์ 29 มีแผนในใจไว้แล้วว่า จบการศึกษาแล้วจะเอาประสบการณ์และผลงานรับจ้างส่งความรักมาต่อยอดธุรกิจอย่างไร
   
คอยดูกัน

วีระพันธ์ โตมีบุญ
VeeraphanT@Gmail.com
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=323&contentID=120954